1/16/2561

เทคนิคการผ่าน ตม.เกาหลี ฉบับทุกการเดินทางมีความลับ

เชื่อว่าหลายๆ คนจิตตก กลัว กับการไปเกาหลีครั้งแรกและหลายๆ ครั้งใช่มั้ยคะ? วันนี้ "ทุกการเดินทางมีความลับ" จะมาแนะนำเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการผ่านตม.เกาหลี โดยข้อมูลที่จะแชร์ต่อไปนี้เป็นแค่ เทคนิค เคล็ดลับที่คาดว่าจะผ่านมากที่สุด และประสบการณ์เจอมานะคะ ไม่รับรองว่าถ้าทำตามแล้วจะผ่านทุกคนแบบ 100 % ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังสนใจในประเด็นนี้อยู่ค่ะ

1. การแต่งตัว :ประเด็นที่ใกล้ตัวที่สุดก่อนเลยจ้า การแต่งตัวมีผลต่อการโดนถามค่ะ ควรแต่งตัวให้ดูไปเที่ยวที่สุด สีสันไม่จี๊ด ไม่เยอะสิ่ง แต่งให้ดูเรียบ แล้วเหมือนไปเที่ยวจริงๆ ในส่วนนี้เราว่าตม.ดูออกค่ะ สำหรับเราเราคิดว่า “รองเท้า” มีผลค่ะ คือไม่คีบแตะไปอะ ใส่ผ้าใบดีที่สุด 

2.เอกสารครบ : เอกสารในที่นี้หมายถึง ตั๋วไปกลับ การจองที่พัก ใครเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือทำงานอยู่ ควรมีใบรับรองสถานะนั้นๆ เผื่อไว้ (เป็นภาษาอังกฤษ) ใครที่เพิ่งจบการศึกษาอยู่ในช่วงว่างงาน (รอรับปริญญา) แบกใบรับรองการจบไปเลยจ้า ทรานสคริปเอาไปให้หมด เงินในบัญชี (อันนี้ไม่จำเป็นมากแต่มีไว้ก็ช่วยได้นะคะ) การเก็บเอกสารใส่ในที่ที่หยิบง่ายค่ะ แต่ยังไม่ต้องหยิบมาให้ตม.ดูตอนยื่นพาสปอร์ตนะคะ

3.ไปเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว : ถ้าไปเป็นกลุ่ม เตรียมถ่ายเอกสารพาสปอร์ตของเพื่อนไว้ด้วยเนอะ ไว้ช่วยกันถ้าเกิดเพื่อนโดนเรียกเข้าไปจริงๆ จะได้รู้ว่ามาด้วยกันค่ะ ในกรณีถ้ามีเพื่อนโดนเข้าไปแล้วเราไม่ถูกพ่วงเข้าไปด้วย ระหว่างรอข้างนอก จะมีเจ้าหน้าที่เอาพาสปอร์ตของเพื่อนมาถาม ว่านี่ใช่คนที่มาด้วยมั้ย ถ้าใช่ก็ตอบเขาไปค่ะ 

4.แพลนเที่ยว : ถ้าไม่มีแพลนเที่ยว เป็นเราเราก็ไม่เชื่อสนิทใจเนอะ เพราะคนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ และไปถึงต่างประเทศ อย่างน้อยต้องมีแพลนเที่ยวแน่นอน ทำแพลนเที่ยวไปให้ครบค่ะ  เป็นภาษาอังกฤษยิ่งดี ในแพลนควรมีการเดินทางบอกไว้ละเอียด และศึกษาไว้ก่อนเดินทางไปค่ะ ในกรณีถ้ากะจะไม่ไปเที่ยวไหน จะไปแค่ติ่ง ก็ต้องมีแพลนไว้นะคะว่าตึกที่จะไปติ่งสถานที่จะไปติ่งอยู่ตรงไหน 

5.สายการบิน: จากประสบการณ์ตรง เราเคยขึ้น แอร์เอเชีย การบินไทย เจจูแอร์ไลน์ คนที่เห็นโดยถามโดนกักตัวเยอะที่สุดคือ “แอร์เอเชีย” แบบเยอะมาก แต่ก็ไม่ทุกคนค่ะ อย่างเราไปเจจูแอร์นี่แบบมีคนไทยไม่ถึงห้าคนเลยมั้งช่วงนั้น ผ่านทุกคนไปอีก (แต่ดูลักษณะก็มาเที่ยวแหละ)  เพราะว่าถ้าเป็นสายการบินโลว์คอร์ส ความเป็นไปได้ของคนที่หนีไปทำงานมีมากกว่าสายการบินแบบฟูลเซอร์วิสค่ะ 

6. งบประมาณ : ควรมีเงินแยกติดตัวไว้ สมมติไปกับพี่น้อง ครอบครัวแล้วใช้กระเป๋าเงินเดียวกัน ควรมีเงินติดตัวไว้ส่วนนึงแยกไว้ค่ะ ถ้าเอาไปฝากไว้ที่คนใดคนนึงเลย เราโดนเรียกขึ้นมาแล้วไม่มีเงินติดตัวเลยจะเดือดร้อนค่ะ กันเขาถามว่าเอาเงินมาเที่ยวเท่าไหร่ อะไรทำนองนี้ ก็เงิบเลยนะคะ

7.เตรียมใจ : ไม่วอกแวก เอาล่ะเมื่อไปถึงมุ่งหน้าไปโลด อย่าลังเล อย่าสับสนว่าจะไปช่องไหนดี เข้าไปตม ตรงๆเลยค่ะ สบตากับเจ้าหน้าที่ไว้ มองไว้ตลอด (แม้ว่าเขาจะทำอะไรยุกยิกก็ตาม) อย่าหันซ้ายหันขวาในกรณีที่โดนถามขึ้นมาจริงๆ ต้องตอบให้ได้และตอบตามความจริง อย่าแบบเอ้ย พูดผิดค่ะ ไรงี้นะคะ ไม่งั้นเขาจะเกิดความสงสัยในตัวเราค่ะ

8.คนเดียว+กลุ่มเพื่อนรอดตาย  : เธอคะ ! รู้เขารู้เรา เรารู้ว่าเธอก็ดูออกว่าใครมาทำงาน เพราะฉะนั้น เมื่อลงจากเครื่องแล้ว พยายามเฟดตัวอย่าเดินตามกลุ่มทัวร์ และกลุ่มที่เสี่ยงค่ะ ไปตม.ก่อนได้ก็ไปเลยจ้า ให้คนที่สามารถพูดอังกฤษได้แล้วมีแนวโน้มการเสี่ยงต่ำสุด อยู่ข้างหน้าไปก่อนค่ะ

9.อย่าคุยกับคนแปลกหน้า: คนแปลกหน้าในที่นี่หมายถึงคนไทยนี่แหละค่ะ คนที่เรามองว่าเขาอาจจะมาทำงาน เพราะถ้าเขาโดนเราอาจจะซวยไปด้วย เหมือนว่าเรารู้จักเขา แหมทำมาตีเนียน อย่าพาเราซวยไปด้วยเชียวนะ!

10. รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง! : ยิ่งถ้าไปบ่อยๆ นะคะ แล้วผ่านทุกรอบการโดนถามก็แทบจะไม่มีเลยค่ะ เราไปมา 5 ครั้งไม่เคยโดนถามเลยสักครั้งค่ะ

11.สำหรับใครพาสขาว : ต้องเตรียมตัวหนักหน่อยนึงเนอะ เอกสารต้องมีจริงๆ เพราะดูเสี่ยงมากกว่าคนที่เคยไปต่างประเทศมาแล้ว   สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า “อย่ากังวล อย่าจิตตก อย่าแป่ว อ่านคนที่เขาติดเยอะๆ ไม่ช่วยอะไรนอกจากจะทำให้เรากลัวมากขึ้น" ทำใจไปเตรียมแพลนแล้ววางแผนเที่ยวดีกว่า สู้ๆจ้า

หมดแล้วจ้า ละเอียดยิบๆ ขนาดนี้หวังว่าจะช่วยได้มากกับคนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆนะคะ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น