ไปเกาหลีครั้งแรก .. จะทำยังไงดี? ต้องเตรียมตัวอะไรบ้างคะ ? ช่วยแนะนำหน่อย
ต้องบอกว่านี้เป็นคำถามยอดฮิตที่เราเจอบ่อยพอสมควรเลยค่ะ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสำหรับคนที่ไปเกาหลีครั้งแรก ว่าจะต้องทำตัวยังไง เริ่มต้นอย่างไร เตรียมตัวอะไรบ้าง อธิบายให้ฟังแบบละเอียด ทั้งเรื่องที่พัก งบประมาณ การปฏิบัติตัวต่างๆ นานา ไปดูกันเลย
เริ่มต้นยังไง
เริ่มต้นอย่างไรนั้นไม่ยากเลยค่ะ ถามจุดประสงค์ของการไปครั้งนี้ของเราก่อนดีกว่า ว่าเราอยากไปทำอะไร แค่เที่ยวชมบ้านเมืองและช้อปสินค้ากลับมาบ้านเฉยๆ หรือ ตั้งใจไปแบบรวบเดียวและติ่งด้วย อยากไปตามรอยนู่นนั่นนี้ เพราะถ้าได้รับคำตอบแล้ว อยากไปแค่ชมบ้านเมือง ดูโลเคชั่นแบบเกาหลีเราแนะนำให้ไปกับทัวร์ค่ะ เพราะจะได้เก็บทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ สบาย และงบประมาณไม่บานปลายอีกด้วย เอาล่ะ เราจะมาแนะนำให้แบบง่ายๆเลยนะ แต่สำหรับคนที่ไปด้วยตัวเอง เพราะเรามั่นใจว่าส่วนใหญ่คนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ก็อยากไปเกาหลีด้วยตัวเองกันทั้งนั้น
ค้นหาข้อมูลเยอะๆ
เมื่อเรารู้จุดประสงค์ของเราแล้ว ว่าจะไปทำอะไร ถึงขั้นตอนที่จะต้องค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ ที่กิน ที่พัก อยากจะไปพักย่านไหน เสริชหาข้อมูลที่เขาแนะนำสถานทีท่องเที่ยวไว้ วิธิการเดินทาง ลิสต์ไว้ให้หมดค่ะ จะได้ตามเก็บได้
วางแพลนเที่ยว
การวางแพลนเที่ยวนะคะ เราแนะนำว่า นำข้อมูลที่เราอยากไปแล้วลิสต์วิธีการเดินทางไว้แล้ว มาเรียงเป็นวันเลยค่ะ ทริคของเราก็คือ ที่ไหนอยู่ใกล้กัน ย่านเดียวกันจะจัดให้ไปวันเดียวกันเลยค่ะ ที่รวมทั้งที่เที่ยวร้านอาหาร เราจะเก็บให้หมดค่ะ (แต่แพลนวันอย่าให้แน่นมากค่ะ เพราะเอาเข้าจริงๆ มันจะเก็บไม่หมด เราถ่ายรูปแต่ละจุดนานมาก เผื่อเวลาเดินงงๆ เวลาเปื่อยๆ อีก)
ต้องใช้เงินเท่าไหร่
คำถามยอดฮิตมาก! ขอลิสต์เป็นข้อย่อยลงไปอีกนะคะ เกี่ยวกับการใช้เงิน
ค่าตั๋วเครื่องบิน : อยากได้ตั๋วถูก ให้จองข้ามปี และสายการบิน โลว์คอส เช่น แอร์เอเชีย แต่บอกไว้ก่อนว่า สายการบินนี้ไม่รวมนำ้หนักกระเป๋านะคะ ต้องเสียเงินเพิ่ม อยากไปแบบสบายให้ไปสายการบินฟูลเซอร์วิส มีข้าวกินบนเครื่อง บริการดีมาก รวมน้ำหนักกระเป๋า ราคาตั๋วอยู่ที่ 13000-18000 นะคะ ถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่น
ค่าที่พัก : ที่พักนี่แล้วแต่คนจริงๆ เลยค่ะ จะพักหรูห้องพักสวยๆ หรือพักแบบไว้ซุกหัวนอนแค่นั้นพอ ตอนเราไปเราเน้นซุกหัวนอนค่ะ 5555เอาแบบนอนได้ ห้องน้ำในตัวก็พอ ตีราคาอยู่ที่ 500-600 บาทต่อคืนค่ะ
ค่ากินเที่ยว : หายนะจะบานปลายก็ตรงนี้ละค่า กินจัดหนักก็เสียเยอะ แต่ราคากินต่ำสุดในร้านอาหารอยู่ที่ประมาณ 5000 วอน (150บาท) ในเรื่องของกินถ้าไปเยอะก็หารเยอะเหลือคนละไม่เท่าไหร่เองค่ะ เพราะของกินเขาเน้นจานใหญ่ ให้เยอะ และอร่อยถูกปาก! แต่ถ้าใครอยากประหยัดแนะนำมินิมาร์ทค่ะ อิ่มเหมือนกัน และไม่แพงด้วย ส่วนเรื่องช้อปแล้วแต่ที่ตั้งใจไว้เลยค่ะ หมายเหตุตรงนี้เลยว่า : กิเลสจะหนามาก อยากซื้อไปหมด โดยเฉพาะแฟชั่นและเครื่องสำอาง หมดตัวค่ะหมดตัว!
ค่าติ่ง : ถ้าค่าติ่งหมายถึงการไปดูคอนเสิร์ต ก็แล้วแต่บัตรคอนค่ะ แต่ถ้าไปตามหน้ารายการเพลงต่างๆ ฟรีเด้ออออ
ค่าทุกอย่างของเราแบบไม่ได้ประหยัดอะไรเลย เอาไป 25000บาท ก็เหลือกลับบ้านค่ะ 5555 (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินอย่างเดียว)
พักที่ไหนดี
ถ้าถามว่าพักที่ไหน แล้วแต่ชอบเลยค่ะ คนส่วนใหญ่ที่ไปพักคือแถว มยองดง อินซาดง อีแทวอน เพราะสะดวกต่อการเดินทาง เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง
แต่ถ้าจะวัยรุ่นหน่อยๆ แนะนำให้พักย่านฮงแดค่ะ เป็นย่านวัยรุ่น ที้กินที่ช้อปเกี่ยวกับเสื้อผ้าวัยรุ่น เทรนด์แฟชั่นเพียบ (แอบเป็นดงคนหล่อด้วยค่ะ มีดนตรีและวัยรุ่นมาทำกิจกรรมตอนกลางคืน )
การหาที่พักสามารถหาได้ตามเว็บค่ะ เราแนะนำ 2 เว็บแล้วกันเนอะ เป็นเว็บ : booking.com และ airbnb จ้า
เมื่อตัดสินใจทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราจะมาบอกสิ่งที่ต้องคำนึง ต้องนึกถึงก่อนเดินทางไปเกาหลี และเมื่ออยู่ที่เกาหลีแล้วกันนะคะ ง่ายๆ สั้นๆ แต่สำคัญกับการเดินทางครั้งนี้มากๆค่ะ
เวลากับตั๋วเครื่องบิน
ไม่ใช่เวลากับใจคนนะคะ 5555555 อันนี้มีหลายเคสพลาดกันแรงมาก เพราะตั๋วเครื่องบินเวลาเดินทางไปเกาหลีส่วนมาก จะคาบเส้นคาบดอกอยู่ระหว่างสองวันค่ะ แนะนำให้ดูให้ดีค่ะ เราจะสมมติให้ง่ายๆเลยนะคะ สมมติ เราเดินทางวันที่ 3 มีนาคม เวลา 01.25 น. ให้เรานับตามเวลาสากลค่ะ อย่าลืมว่าพอถึงเที่ยงคืนแล้วจะเปลี่ยนเป็นอีกวันค่ะ ตามที่เราบอกเมื่อกสักครู่หมายความว่า เราต้องไปถึงสนามบินวันที่ 2 มีนาคม ตอนกลางคืนนะคะ เพราะไฟล์ทเราคือตีหนึ่งวันที่ 3 มีนาค่ะ เครื่องจะ departure ตอนตีหนึ่งวันที่ 3 นะคะ หลายคนตกไฟล์ทไปแล้วก็มีค่ะ
ฤดูที่แตกต่าง
แน่นอนค่ะ ว่าแต่ละประเทศภูมิอากาศไม่เหมือนกัน ตอนประเทศเราร้อนอยู่ เขาอาจจะหนาวสุดขั้ว ขอให้คำนึงไว้เสมอว่า เราไปที่เกาหลีตอนฤดูไหน ให้เตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อมรับมือกับอากาศ ณ ช่วงเวลานั้นๆ เกาหลีแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ฤดูคือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคมถึงพฤษภาคม) ฤดูร้อน (มิถุนายนถึงสิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายนถึงพฤศจิกายน) และฤดูหนาว (ธันวาคมถึงกุมพาพันธ์) เตรียมตัวให้พร้อมกับเสื้อผ้าค่ะ ขอย้ำว่า ฤดูหนาวเกาหลีนิยมใส่สีทึบๆ นะคะ ดำเทาขาว น้ำตาลในโทนนี้ค่ะ
บัตร T-Money
การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเกาหลี ไม่ว่าจะรถเมล์ รถบัส รถไฟฟ้า แท็กซี่ ต้องใช้บัตรทีมันนี่ถึงจะสะดวกที่สุดค่ะ วิธีใช้เหมือนตอนเราเติมบัตรแรบบิทบ้านเรานี่ล่ะค่ะ เติมเงินแล้วติ๊ด อีกทั้งยังสามารถใช้ติ๊กบัตรที่มาร์ท เซเว่นของเกาหลีได้อีกด้วยค่ะ สะดวกสบายสุดๆ การซื้อสามารถซื้อที่มินิมาร์ทและเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าใต้ดินได้เลยค่ะ
เตรียมรับมือกับตม.เกาหลี
เสียงลือเสียงเล่าอ้างกันสุดๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นใครจะเดินทางไปเกาหลีครั้งแรก ก็จะตื่นเต้นกับตม.หน่อยๆ เพราะฉะนั้นเตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ สามารถไปอ่านบทความ การเตรียมรับมือกับตม.เกาหลีและเทคนิคการผ่านตม.เกาหลีได้เลยค่ะ
อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก
สำหรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่เกาหลีกับประเทศไทยแน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้วค่ะ เช่นที่เกาหลี ไม่ใช้ส้อม แต่เน้นการใช้ตะเกียบ ที่เกาหลีไม่ค่อยกินน้ำแข็ง ที่เกาหลีห้ามนั่งที่นั่งคนท้อง ในส่วนนี้แนะนำให้ไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับประเทศเกาหลีให้ดีนะคะ
สกุลเงิน ,แลกเงิน
แนะนำให้แลกเงินจากไทยไปนะคะ โดยตีมูลค่าเงินคร่าวๆ 1000 วอน = 30 บาท ทำนองนี้ สามารถแลกเงินได้ทุกธนาคารที่รับแลกเป็นเงินวอน ถ้าจะให้ถูกๆ แนะนำ superich ค่ะ สีอะไรก็ได้
ระบบขนส่ง
ส่วนใหญ่คนเกาหลีใช้วิธีการนั่งรถไฟฟ้าค่ะ แล้วเดินต่อเอา จะบอกว่าเขาเดินกันโหดมาก เป็นโลๆ ก็เดินมาแล้ว หรือหากใครจะนั่งรถเมล์อันนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่ได้ภาษากเกาหลีค่ะ เพราะจะเสริชผ่านแอพฯ ว่ารถเมล์สายไหนไปตรงไหน ในส่วนของการใช้รถเมล์จะถูกกว่าและก็จะใกล้กว่า( ทำให้เดินน้อยกว่าค่ะ)
เมืองที่ไม่เคยหลับใหล
ขอเรียนให้ท่านทราบว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลค่ะ เที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองเขายังเที่ยวกันอยู่เลย เรื่องความปลอดภัย เรามั่นใจว่าที่นู่นปลอดภัยกว่าประเทศไทยแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นแหล่งช้อปแหล่งวัยรุ่น จะคึกคักมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะตอนกลางคืน
การใช้ภาษา
ถ้าไม่ได้ภาษาเกาหลี ต้องทำใจนิดนึงนะคะ เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่เราจะเข้าใจไปเองโดยปริยายด้วยภาษามือค่ะ 5555แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ บางครั้งในร้านอาหารมีรูปให้ดู และก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยจริงๆ ค่ะ ปล. อย่าถามทางคนเกาหลีนะคะ เพราะส่วนใหญ่เขาไม่รู้ค่ะปกติเขาใช้ชีวิตอยู่กับเนวิเกเตอร์ตลอดเวลา บางครั้งเรายังโดนคนเกาหลีถามทางซะเอง #เห้ยแบบนี้ก็ได้หรอ
ห้องน้ำในเกาหลี
บอกไว้ก่อนเลยว่า "อย่าถามหาที่ฉีดก้น"แบบบ้านเรา เพราะไม่มีค่ะ!! ในเรื่องของความสะอาดรับประกันได้พอๆ กับบ้านเราเลยค่ะ ข้อแนะนำคือ หากห้องน้ำไหนที่ปิดฝาชักโครกไว้ แสดงว่าห้องน้ำนั้นสะอาดค่ะ (งงอ่าดิ) แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ เหมือนยังไม่ผ่านการใช้หลังจากที่แม่บ้านทำความสะอาดอะไรทำนองนี้ แต่เพื่อความชัวร์ไม่เจอแจ็คพ็อต กดชักโครกก่อนใช้หนึ่งครั้งนะคะ อีกอย่างคือ เดี๋ยวนี้ห้องน้ำเกาหลีส่วนใหญ่สามารถทิ้งทิชชู่ลงไปในชักโครกได้เลยค่ะ ถ้าบางที่ไม่มีถังขยะในห้องน้ำแสดงว่าใส่ทิชชู่ลงไปในชักโครกได้เลยเน้ออ เพราะเขาเป็นนวัตกรรมใหม่ ย่อยสลายได้
อินเทอร์เน็ต
ในส่วนของอินเทอร์เน็ตที่เกาหลีร้านอาหารส่วนใหญ่เป็น wifi ฟรีค่ะ เล่นได้เพลินๆ เลย แต่แนะนำว่าถ้าคนติดโซเชียลให้ซื้อแพ็คเกจที่สนามบินค่ะ จองจากไทยไปโลด หรือถ้าใครไม่ซีเรียสมากแนะนำให้ซื้อซิมไทยที่เปิดบริการที่เกาหลีเป็นแพ็คเกจ เช่น sim2fry
บัตร T-Money
การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเกาหลี ไม่ว่าจะรถเมล์ รถบัส รถไฟฟ้า แท็กซี่ ต้องใช้บัตรทีมันนี่ถึงจะสะดวกที่สุดค่ะ วิธีใช้เหมือนตอนเราเติมบัตรแรบบิทบ้านเรานี่ล่ะค่ะ เติมเงินแล้วติ๊ด อีกทั้งยังสามารถใช้ติ๊กบัตรที่มาร์ท เซเว่นของเกาหลีได้อีกด้วยค่ะ สะดวกสบายสุดๆ การซื้อสามารถซื้อที่มินิมาร์ทและเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าใต้ดินได้เลยค่ะ
การใช้บัตรทีมันนี่บนรถเมล์ เดินเข้าประตูหน้าติ๊กบัตร 1 ครั้ง ตอนจะลง ติ๊กบัตรอีกครั้งนึงที่ประตูท้ายนะคะ
เตรียมรับมือกับตม.เกาหลี
เสียงลือเสียงเล่าอ้างกันสุดๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นใครจะเดินทางไปเกาหลีครั้งแรก ก็จะตื่นเต้นกับตม.หน่อยๆ เพราะฉะนั้นเตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ สามารถไปอ่านบทความ การเตรียมรับมือกับตม.เกาหลีและเทคนิคการผ่านตม.เกาหลีได้เลยค่ะ
อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก
สำหรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่เกาหลีกับประเทศไทยแน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้วค่ะ เช่นที่เกาหลี ไม่ใช้ส้อม แต่เน้นการใช้ตะเกียบ ที่เกาหลีไม่ค่อยกินน้ำแข็ง ที่เกาหลีห้ามนั่งที่นั่งคนท้อง ในส่วนนี้แนะนำให้ไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับประเทศเกาหลีให้ดีนะคะ
สกุลเงิน ,แลกเงิน
แนะนำให้แลกเงินจากไทยไปนะคะ โดยตีมูลค่าเงินคร่าวๆ 1000 วอน = 30 บาท ทำนองนี้ สามารถแลกเงินได้ทุกธนาคารที่รับแลกเป็นเงินวอน ถ้าจะให้ถูกๆ แนะนำ superich ค่ะ สีอะไรก็ได้
ระบบขนส่ง
ส่วนใหญ่คนเกาหลีใช้วิธีการนั่งรถไฟฟ้าค่ะ แล้วเดินต่อเอา จะบอกว่าเขาเดินกันโหดมาก เป็นโลๆ ก็เดินมาแล้ว หรือหากใครจะนั่งรถเมล์อันนี้ขอแนะนำสำหรับคนที่ได้ภาษากเกาหลีค่ะ เพราะจะเสริชผ่านแอพฯ ว่ารถเมล์สายไหนไปตรงไหน ในส่วนของการใช้รถเมล์จะถูกกว่าและก็จะใกล้กว่า( ทำให้เดินน้อยกว่าค่ะ)
เมืองที่ไม่เคยหลับใหล
ขอเรียนให้ท่านทราบว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลค่ะ เที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองเขายังเที่ยวกันอยู่เลย เรื่องความปลอดภัย เรามั่นใจว่าที่นู่นปลอดภัยกว่าประเทศไทยแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นแหล่งช้อปแหล่งวัยรุ่น จะคึกคักมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะตอนกลางคืน
การใช้ภาษา
ถ้าไม่ได้ภาษาเกาหลี ต้องทำใจนิดนึงนะคะ เพราะคนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่เราจะเข้าใจไปเองโดยปริยายด้วยภาษามือค่ะ 5555แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ บางครั้งในร้านอาหารมีรูปให้ดู และก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยจริงๆ ค่ะ ปล. อย่าถามทางคนเกาหลีนะคะ เพราะส่วนใหญ่เขาไม่รู้ค่ะปกติเขาใช้ชีวิตอยู่กับเนวิเกเตอร์ตลอดเวลา บางครั้งเรายังโดนคนเกาหลีถามทางซะเอง #เห้ยแบบนี้ก็ได้หรอ
ห้องน้ำในเกาหลี
บอกไว้ก่อนเลยว่า "อย่าถามหาที่ฉีดก้น"แบบบ้านเรา เพราะไม่มีค่ะ!! ในเรื่องของความสะอาดรับประกันได้พอๆ กับบ้านเราเลยค่ะ ข้อแนะนำคือ หากห้องน้ำไหนที่ปิดฝาชักโครกไว้ แสดงว่าห้องน้ำนั้นสะอาดค่ะ (งงอ่าดิ) แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ เหมือนยังไม่ผ่านการใช้หลังจากที่แม่บ้านทำความสะอาดอะไรทำนองนี้ แต่เพื่อความชัวร์ไม่เจอแจ็คพ็อต กดชักโครกก่อนใช้หนึ่งครั้งนะคะ อีกอย่างคือ เดี๋ยวนี้ห้องน้ำเกาหลีส่วนใหญ่สามารถทิ้งทิชชู่ลงไปในชักโครกได้เลยค่ะ ถ้าบางที่ไม่มีถังขยะในห้องน้ำแสดงว่าใส่ทิชชู่ลงไปในชักโครกได้เลยเน้ออ เพราะเขาเป็นนวัตกรรมใหม่ ย่อยสลายได้
อินเทอร์เน็ต
ในส่วนของอินเทอร์เน็ตที่เกาหลีร้านอาหารส่วนใหญ่เป็น wifi ฟรีค่ะ เล่นได้เพลินๆ เลย แต่แนะนำว่าถ้าคนติดโซเชียลให้ซื้อแพ็คเกจที่สนามบินค่ะ จองจากไทยไปโลด หรือถ้าใครไม่ซีเรียสมากแนะนำให้ซื้อซิมไทยที่เปิดบริการที่เกาหลีเป็นแพ็คเกจ เช่น sim2fry
หวังว่าจะเป็นประโยชน์และความรู้ใหม่ๆ แก่คนที่สนใจนะคะ หากใครมีข้อสงสัยถามได้เลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น