3/18/2561

รีวิวโกชีวอน "maru residence ชินชน" เรียนภาษาเกาหลีที่ยอนเซ

หลายคนเรียกร้องกันหนักมาก! ให้รีวิวโกชีวอนที่เราอยู่ ... ดังนั้นเราเลยต้องมารีวิวสักที หลังจากดองแล้วดองเล่า  โกชีวอนที่เรามาเช่าชื่อว่า maru residence นะคะอยู่ตรงด้านหน้าของมอยอนเซ เพื่อความสะดวกสบาย เลยเช่าที่นี่ และดูจากในรูปคือสะอาดสะอ้าน ก็เลยเอาว่ะ .. ลองติดต่อไปดูก็ได้ ก็เลยติดต่อจากอีเมลไป สักพักเขาบอกให้ติดต่อมาทาง kakaotalk ก็เลยคุยกันง่ายขึ้น 

มีคนถามว่าหาจากเว็บไหน เราหาจากเว็บ goshipage จ้า 

เราติดต่อล่วงหน้าประมาณเดือนนึงหรือเดือนครึ่งเลย ถ้าจำไม่ผิด และถามเขาว่ามีห้องว่างมั้ย สรุปคือมีค่ะ ก็เลยขอดูรูปห้อง ห้องว่างอยู่2-3 ไทป์เลยมีสิทธิ์เลือกเยอะหน่อย  ลำพังนี่ก็เคยได้ยินมานะคะว่าแบบอย่าดูแค่รูป เพราะถ้าไปดูจริงๆ จะผิดหวัง แต่เราทำใจไว้ละ เพราะเคยไปพักที่เกาหลีห้องเล็กๆ มาก่อน 

เราพล่ามมาเยอะแล้วค่า ไปดูภาพจริงหลังการเข้าพักกันก่อนเลย 




อันนี้เป็นในส่วนของห้องที่เราพักเองค่ะ ห้องนอนโดยมีเฟอร์นิเจอร์ตู้ใส่ของด้านบน ทีวี แอร์ส่วนตัว(แบบไม่ยึดรีโมร์ท) ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก ห้องน้ำส่วนตัว  ถังขยะ หน้าต่าง(ไม่ทุกห้อง) โดยที่พักที่นี่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ตส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วค่ะ คุ้มมากๆ  ราคาที่เราพักคือ 400,000 วอนต่อเดือน หรือ 12,000 บาทไทยนั่นเอง  ห้องนอนก็จะประมาณนี้ 



ในส่วนนี้คือด้านหน้าของที่พักค่ะ ชั้น 4 ก็จะมีล็อกเกอร์ใส่รองเท้าให้ด้วย แต่ห้องเราอยู่ข้างในนะคะ มีร่มให้ใช้ฟรี 
 ด้านนอกตรงระหว่างบันไดแต่ละชั้นก็จะมีถังขยะอันใหญ่ไว้ให้ใส่ โดยต้องแยกขยะตามที่บอกไว้ด้วยค่ะ ที่เกาหลีซีเรียสเรื่องนี้มากๆ


ซึ่งในชั้นที่เราพักก็จะมีครัวขนาดย่อมๆ ให้ด้วย แต่ครัวในแต่ละชั้นจะให้ใช้ในระยะเวลา 9 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มเท่านั้น ไม่งั้นจะหนวกหูเสียงดังคนอื่นค่ะ  แต่ที่นี่ก็มีครัวใหญ่ให้เช่นกัน ซึ่งอยู่ที่รูฟท็อป จะใช้ตอนไหนก็ได้แล้วแต่เราเลยค่ะ ดึกแค่ไหนก็ไม่หวั่น

ก็เดินขึ้นไปรูฟท็อป ชั้น 6 กันเลย ห้องทางซ้ายมือที่เห็นคือครัวนั้นเองค่ะ ตรงพื้นที่สีเขียวเป็นที่ตากผ้า  กว้างมาก ตากกันได้ทั้งหอเลย 



และนี่ก็เป็นส่วนครัวรวมค่ะ โดยที่นี่ก็บริการ รามยอน กิมจิ หัวไชเท้าดอง ข้าว และกาแฟ ตลอดเลยจ้า  กินกันเลยฟรีๆ เหมารวมถึงค่าเช่าด้วยเช่นกัน  พักโกชีวอนอะไรๆก็จะรวมไปหมดเลยค่ะ ดีงามตรงนี้ ใครจะนั่งข้าวตรงโต๊ะก็แล้วแต่เลยค่ะ แต่ว่าส่วนใหญ่ก็กลับไปกินที่ห้องตัวเองกันทั้งนั้น

ในส่วนของรูฟท็อปดาดฟ้าก็จะสามารถมองเห็นวิวยอนเซได้เลยค่ะ เพราะอยู่ติดถนน มีรถเมล์ผ่านเดินทางสะดวก และดีงามมากๆ  

แต่ยังมีข้อเสียนะคะถ้าอยู่ที่นี่ : เนื่องจากอยู่ติดถนนและติดยอนเซ ก็จะมีโรงพยาบาลของยอนเซอยู่ใช่มั้ย แต่จะได้ยินรถหวอดังบ่อยครั้ง จนชินเลยก็ว่าได้ 555555555555  และอาจจะได้ยินเสียงบีบแตรอีกด้วย แต่โดยรวมเราเป็นคนหลับง่าย เลยไม่ซีเรียสเรื่องนี้  

จบการรีวิวจ้า หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ :)

3/08/2561

การสอบทดสอบระดับก่อนเข้าเรียนที่ยอนเซ! + ปฐมนิเทศ


เกริ่นกันสักหน่อยจากบทความก่อนๆ หน้านี้ ว่าเราจะไปเรียนภาษาที่ยอนเซ ตอนสมัครเรียนเราก็เลือกทดสอบระดับภาษาก่อน ค่อยให้เขาจัดให้ไปในคอร์สที่เหมาะสมค่ะ โดยการสอบเขาก็จะแจ้งเรามาว่าสอบวันไหน เมื่อไหร่อะไรยังไง ทางเมลหลังจากการจ่ายเงินเรียบร้อยค่ะ 

พอถึงวันสอบก็เดินไปที่ตึกก่อนเวลาสักหน่อยค่ะ เพราะเขาจะให้เข้าไปในห้องรวมก่อน ถึงจะประกาศห้องที่ต้องใช้ในการสอบจริงๆ  โดยการสอบแบ่งออกเป็นสองประเภท คือสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์  ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ห้องที่ใช้สอบมีคนประมาณ 10 คนค่ะ แซมก็แจกข้อสอบมาให้เขียนชื่อ และวันเกิด แล้วก็ลงมือทำค่ะ ระหว่างนั้นเขาจะก็เรียกไปสัมภาษณ์ทีละคนที่ห้องตรงข้าม



ว่าด้วยเรื่องข้อสอบ
ในส่วนของข้อสอบเขียนและกานั้น จะเริ่มตั้งแต่ระดับง่ายไปจนถึงยากค่ะ ข้อสอบมีทั้งหมด 100 กว่าข้อ ให้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะถูกเรียกสัมภาษณ์แบบทยอยกันไปเดี่ยวๆ ข้อสอบเป็นแบบเลือกช็อยส์และก็ถามตอบเป็นประโยค ข้อแรกๆ สำหรับคนที่เรียนหรือมีพื้นฐานมาแล้ว ก็ง่ายมากเลยค่ะ แบบตอบได้อย่างไว พอหลังๆ เริ่มไต่ระดับความยากไปเรื่อยๆ จนต้องเกาหัว หลังกว่านั้นก็จ้ำจี้มะเขือเปาะแปะแล้วค่ะ เอาจริง คือมันเลเวลสูงมาก เจอไปถึงขั้นสบถว่า “อะไรวะ!!” บางอันแปลคำถามออกแต่อันที่เป็นคำตอบไม่รู้ศัพท์ คือมันยากมากสำหรับเรา คือที่ใครทำได้หมดก็ไม่ต้องมาเรียนแล้วอะ เทพแล้ว 555555 

ในส่วนของการสอบสัมภาษณ์นั้น .. เข้าไปก็ทักทายสวัสดีตามธรรมเนียม เขาก็พูดขึ้นด้วยภาษาเกาหลีเลยค่ะ แล้วคำถามก็แล้วแต่คนโดนค่ะ ไม่มีฟิคตายตัว อย่างของเราก็ถามประมาณว่า มาจากไหน ทำไมเรียนภาษาเกาหลี  มาอยู่นี่ครอบครัวไม่เป็นห่วงหรอ ? แล้วทำไมเขาต้องเป็นห่วง (เอ้าาาาแกร๊) แล้วเป็นห่วงเขาทำยังไงหรอ เรียนแล้วจะเอาไปทำอะไร บลาๆ ประมาณ 10 นาทีก็เสร็จค่ะ อันนี้ไม่ยาก เหมือนแบบเขาพยายามถามตอบไปเรื่อยๆ เราก็ตอบจนได้นั่นแหละ (ง่ายกว่าข้อเขียนอีกเว้ย)


พอสัมภาษณ์เสร็จเข้าไปทำข้อเขียนที่เหลือ ณ ตอนนั้นแหละ มั่วแหลก เพราะมันไม่ได้แล้วจริงๆ พอเสร็จก็ลุกออกมาไปหาข้าวกินที่โรงอาหารม.ยอนเซค่ะ ดีงามพระรามแปด ไว้มารีวิวอีกรอบนะ (ทวงได้ 5555)


ปฐมนิเทศนักเรียน

พอสองวันต่อมาก็ปฐมนิเทศค่ะ ไม่ได้ห่างกับวันสอบวัดระดับเท่าไหร่ และที่สำคัญ !!!! ที่บอร์ดนางมีประกาศผลสอบวันก่อนแล้วจ้า  !!!! มีความไล่ดูตั้งแต่เลเวลหนึ่ง ปรากฏว่าเลเวลนี้ไม่มี กรี้ดแตกกก แต่ไปอยู่เลเวลสองแทนค่ะ (ก็ยังดี ลดค่าเทอมค่าหนังสือไปตั้งเดือนหนึ่งค่ะ) เย้เย้ !

ในส่วนตอนปฐมนิเทศนั้น ไม่มีอะไรมาก เขามีหนังสือขั้นตอนต่างๆ ให้ไว้หน้าห้องและเข้าไปในห้องประชุม ซึ่งความจริงแล้วในห้องประชุมไม่มีอะไรเลยค่ะ (ไม่ต้องไปก็ย่อมได้) เขาแค่พูดซ้ำเหมือนในหนังสือ ซึ่งค่อนข้างน่าเบื่อระดับนึง  ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็แยกย้ายค่ะ ส่วนของเรานั้นไปซื้อหนังสือค่ะ ซึ่งหนังสือแพงมากเวอร์ ราคา 90,000 วอนตีค่าไทยแล้วเกือบๆ สามพันบาท ขอหนีไปร้องไห้แปป 


หากมีอะไรสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่อีเมล alljourneys.havesecret@gmail.com และช่องทางการติดต่อที่แท็บบล็อกด้านบนนะคะ